Blue Mountains ถึง 2 ครั้ง 2 คราว

อุทยานแห่งชาติ Blue Mountains ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของซิดนีย์ ที่ใครๆไปเยือน ก็ต้องแวะชม

     ผืนป่าที่กว้างสุดสายตา ทิวเขาทอดตัวยาวตัดกับเวิ้งฟ้าที่สดใส เป็นภาพอุทยานแห่งชาติ Blue Mountains ที่เรามักเห็นจนชินตาตามโปสการ์ดหรือสื่อโฆษณาโปรโมทการท่องเที่ยวของซิดนีย์อยู่บ่อยๆ
   ใครที่ได้เดินทางมาเที่ยวหรือเรียนที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เชื่อว่า Blue Mountains ต้องอยู่ในลิสรายการสถานที่ๆต้องไปเป็นแน่ ทั้งการเดินทางไปยัง Blue Mountains ก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน ใช้รถไฟก็ไปถึง
แถมคนที่ใช้ Opal card (บัตรสำหรับจ่ายเงินขนส่งสาธารณะแห่งรัฐ NSW ใช้ได้ทั้งรถไฟ รถบัส เฟอร์รี่ ซื้อและเติมเงินได้ที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไป) ก็จะรู้ดีว่าเราสามารถไป Blue Mountains ได้ฟรีๆ ในช่วง
สุดสัปดาห์ เนื่องจาก Opal card นั้นถ้าเราใช้ไปแล้ว 8 ครั้งในสัปดาห์นั้น ครั้งที่ 9 เป็นต้นไปจะฟรี (จะเริ่มคิดเงินใหม่อีกครั้งในวันจันทร์) ดังนี้ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ จึงเหมาะกับการนั่งรถฟรีไปเที่ยวไกลๆอย่างยิ่ง

     การเดินทางไป Blue Mountains สามารถนั่งรถไฟจากสถานี Central จากในเมืองไปลงที่สถานี Katoomba ซึ่งก็นั่งหลับกันได้ยาวๆเลยเพราะกินเวลาเกือบๆ 3 ชั่วโมง (ควรต้องออกเดินทางกันแต่เช้านะจ๊ะ) เมื่อถึงสถานีที่จะลง ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือคนจะลงสถานี Katoomba กันเยอะที่เดียว เรียกว่ารถไฟแทบจะร้างจากสถานีนี้ เพราะเขาก็นั่งรถไฟมาเที่ยว Blue Mountains เหมือนเราๆนั้นหละ
จากสถานี Katoomba จะเดินต่อไป Blue Mountains หรือรอรสบัสก็ได้ ซึ่งข้าพเจ้าก็ทำมาแล้วทั้งสองอย่าง เดินจะเหนื่อยหน่อยกว่าจะถึง แต่ก็ได้บรรยากาศดี ไม่ว่าจะเดินหรือนั่งรถบัส จุดแรกที่เราจะไปถึง เรียกว่าจุดเช็คอินของ ฺBlue Mountains เลยก็ว่าได้คือ Echo Point ไปถึงแล้วใครๆก็ต้องแวะถ่ายรูปกับป้ายนี้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เดินมาอีกนิดหน่อยก็จะถึงจุดชมวิว The Three Sisters จุดที่เราจะได้เห็นยอดเขาสามยอดเรียงกัน ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของอุทยาน Blue Mountains

หลักๆ ของ Blue Mountains ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญก็คือ Echo Point และ The Three Sisters นี่หละ

 สถานที่แห่งนี้มีตำนาน

   สาเหตุที่เขาสามยอดถูกเรียกว่า Three Sisters นั้นเพราะว่าตามตำนานแล้วมันคือสามสาวพี่น้องที่ถูกสาป
   บางตำนานเล่าว่าผู้เป็นพ่อมีกระดูกวิเศษได้เสกลูกสาวทั้งสามคนให้กลายเป็นหินเพื่อปกป้องลูกสาวจากวิญญาณอำนาจซึ่งอาศัยอยู่ในหุบเขาลึก เนื่องจากว่าลูกสาวได้ไปทำให้วิญญาณตื่นขึ้น ส่วนตัวเองก็แปลงร่างเป็นนกไลเออเบิร์ดเพื่อหลบหนีการตามล่า แต่เมื่อกลายร่างเป็นนกก็ได้ทำกระดูกวิเศษหล่นหายไป จึงไม่สามารถถอนคำสาปให้ตัวเองและลูกสาวได้ ลูกสาวทั้งสามจึงยังคงเป็นหินอยู่ตามเดิม จนกว่าผู้เป็นพ่อจะหากระดูกวิเศษเจอ และแปลงร่างกลับเป็นคนช่วยคลายมนต์ให้ลูกสาวได้

อีกตำนานเล่าว่า สามสาวพี่น้องตกหลุมรักกับชายหนุ่มต่างเผ่า แต่มีกฎห้ามแต่งงานระหว่างเผ่า
ทำให้สามหนุ่มคนรักของสามสาวพี่น้องตัดสินใจยกกำลังมาเพื่อแย่งชิงตัวเจ้าสาว จนเกิดสงครามขึ้น ผู้อาวุโสของเผ่าต้องการปกป้องสามสาวจึงตัดสินใจสาปให้ทั้งสามคนเป็นแท่งหิน แต่ตัวเองดันถูกสังหารในสนามรบ จึงไม่มีใครสามารถแก้คำสาปได้ สามสาวเลยกลายมาเป็น Three Sisters จนถึงทุกวันนี้ ส่วนสามหนุ่มก็ร้องไห้เสียใจจนกลายเป็นสายน้ำตกที่รู้จักกันว่า Katoomba falls

สามสาว Three Sisters ณ Blue Mountains

   สำหรับประสบการณ์การเที่ยว Blue Mountains ของข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าได้ไปเยือนถึงสองครั้งสองคราว ในครั้งแรกนั้นได้นัดแนะกับเพื่อนๆในชั้นเรียนว่าเราจะไปเที่ยว Blue Mountains กันในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยจะขึ้นรถไฟไปกันตั้งแต่เที่ยวแรก ในตอนนั้นเป็นปลายเดือนมกรา ซึ่งจริงๆแล้วเป็นฤดูร้อนของออสเตรเลีย แต่ก็อย่ามั่นใจในฤดูกาลแห่งซิดนีย์นัก เพราะทุกวันในหนึ่งสัปดาห์อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง จนเราต้องอึ้ง !!!
ในสุดสัปดาห์นั้น ปรากฏว่าอยู่ดีๆอากาศก็แปรปรวน ทั้งๆที่เป็นฤดูร้อนแต่อากาศก็เกิดหนาวขึ้นมาเฉยๆ แต่แผนการไป Blue Mountains ก็ยังไม่ถูกยกเลิก เนื่องจากว่ามีเพื่อนบางคนในกลุ่มต้องเดินทางกลับประเทศในสัปดาห์ถัดมา นี่จึงอาจเป็นโอกาศสุดท้ายที่จะไป Blue Mountains ของเขา เราจึงลองเสี่ยงวัดดวงกันดู

พอลงรถไฟที่สถานี Katoomba แล้ว ข้าพเจ้าพบว่าทัศนวิสัยแย่มาก มีหมอกจัดจนมองเห็นได้ไม่ไกลเกินกว่าหนึ่งช่วงแขน หลังจากรอรถบัสอยู่นานแต่ก็ไม่เห็นมาซักที่ เราก็เริ่มไม่ค่อยแน่ใจว่าวันนี้รถจะวิ่งหรือเปล่า ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆจึงตัดสินใจเดินไปยังจุด Echo Point กันเองซึ่งก็ไกลพอควรเลย ดีที่อากาศไม่ร้อนติดค่อนข้างเย็นด้วยซ้ำ เดินไปเรื่อยๆก็ไม่มีเหงื่อออกแม้แต่หยดเดียว ต่อต้องระวังเกาะกลุ่มกันไว้ดีๆเพราะหมอกหนา  ถ้าหากพลัดหลงกันไปคงหากันไม่เจอ ระหว่างทางบรรยากาศก็จะคล้าย Horror movie ยังกะเราพลัดหลงเข้าไปในดินแดนพิศวงอะไรแบบนั้น

ไอหมอกกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเกาะตามใบไม้ดอกไม้

การไป Blue mountains ที่ไม่ได้เห็น Three Sisters เห็นอะไรไม่ได้ไกลไปกว่าฝ่ามือตัวเอง (ในรูปคือดอกลาเวนเดอร์ที่จะบานในฤดูร้อน แค่วันนี้มันดูคล้ายจะไม่ใช่ฤดูร้อน )

พอไปถึงจุด Echo Point เราก็รออยู่นานเลยที่เดียว ด้วยความหวังที่ว่า พอเที่ยงอากาศอาจจะดีขึ้น แดดคงส่องจนหมอกหนาจางหายไปหมด แต่รอจนเที่ยง หมอกก็ยังหนาเหมือนเดิมเลย ^^!
เลยเป็นประสบการณ์การณ์ไป Blue Mountains ที่ไม่ได้เห็น Three Sisters แถมกลับมายังโดนเพื่อนหลายคนในชั้นเรียนหัวเราะแล้วถามว่า "นี่ยูไม่เช็คพยากรณ์อากาศกันก่อนไปเหรอ"


เอาน่า สี่เท้ายังรู้พลาด  ....
อย่างไรเสีย ข้าพเจ้าก็พูดได้ว่า ข้าพเจ้าได้เห็น Blue Mountains ในแง่มุมที่แตกต่างที่ใช่ว่าจะหาดูกันได้ทุกวัน




ราวเดือนพฤษภาคม ซึ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ข้าพเจ้าก็คิดว่า ถึงเวลาแล้วที่ข้าพเจ้าต้องไปแก้ตัวที่ Blue Mountain อีกซักครา เนื่องจากเป็นการตัดสินใจกระทันหันในเย็นวันศุกร์ เลยไม่ได้นัดแนะกับใคร เช้าวันเสาร์ข้าพเจ้าก็ตื่นแต่เช้าเพื่อจะไปใช้ทันรถไฟเที่ยวแรกไป Blue Mountains แต่ปรากฏว่า ...

    เหมือนการคมนาคมจะไม่เป็นใจ ทางรถไฟสายนั้นดันมีปัญหา ปิดซ่อมแซมบางช่วงชั่วคราว
ข้าพเจ้าทำหน้าเศร้าๆ ถามพนังงานรถไฟไปว่า แล้วจะไป Blue Mountains ด้วยวิธีไหนได้อีกบ้าง พนักงานเลยกางแผนที่แล้วบอกทางไป Blue Mountains ด้วยรถบัสแล้วค่อยไปขึ้นรถไฟต่อตรงสถานีที่เลยจุดซึ่งปิดซ่อมแชมไปแล้ว ซึี่งปลายทางก็คือสถานี Katoomba เหมือนเดิม ตอนกลับก็ทำสลับกัน ขึ้นรถไฟ แล้วลงตรงสถานีเดิมแล้วจึงต่อรถบัสกลับมาซิดนีย์ รถบัสก็จอดตรงป้ายด้านข้างของสถานี Central นั้นหละ ไม่ได้ยากอะไร แต่เส้นทางมันจะอ้อมหน่อย ต้องเดินทางกันราว 4-5 ชั่วโมงเลยกว่าจะถึง Blue Mountains แต่ข้าพเจ้าก็ได้ตันสินใจไปแล้ว และจะไม่มีอะไรมาล้มเลิกได้

ในที่สุดก็ได้เห็น Three Sisters แบบชัดแจ๋ว

  การมา Blue Mountains เป็นครั้งที่สองของข้าพเจ้านั้น ถือว่าเป็นวันที่ดีทีเดียวสำหรับการมาเที่ยว (แม้ว่าแรกเริ่มจะมีอุปสรรคติดขัดเรื่องการเดินทาง) เป็นวันที่แดดดี ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่อากาศก็ไม่ร้อน ถ่ายรูปกำลังสวย เดินเล่นก็กำลังสบายๆ คราวนี้ข้าพเจ้าได้เห็นอะไรที่ Blue Mountains มากกว่าจุดเช็คอินยอดฮิตอย่าง Echo Point และ The Three Sisters เยอะเลย

   จริงๆแล้ว อุทยานแห่งชาติ Blue Mountains นั้นใหญ่โตกว้างขวางมาก และมีเส้นทางไว้ให้เดินสำรวจธรรมชาติ แต่ผู้คนที่มาเที่ยว Blue Mountains ส่วนใหญ่มันจะรีบเร่งกับเวลาที่จำกัด ต้องกลับให้ทันรถเที่ยวนั้นเที่ยวนี้ หรือมากับกรุ๊ปทัวร์ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเวลาจึงพาแวะแค่บางจุดที่เป็นไฮไลท์ก่อนพาขึ้นรถกลับซิดนีย์ คนส่วนใหญ่จึงหลงลืมกันไปว่า Blue Mountains นั้นไม่ได้มีดีแค่ Echo Point และ The Three Sisters เท่านั้น

ฺBlue mountains มีกระเช้าลอยฟ้าให้นั่งชมผืนป่าตามรอยธรรมชาติด้วย

Blue mountains มุมนี้ต้องเดินมาจากมุมยอดฮิตไกลพอสมควรทีเดียว

แอบเห็นThree Sisters อยู่ไกลๆ 

น้ำตกสายเล็กๆ

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีที่ Blue mountains