ดอกไม้บาน ที่ ซิดนีย์



     ออสเตรเลีย เป็นทวีปที่ตั้งอยู่ทางซีกโลกใต้ 
ดังนั้นฤดูกาลต่าง ๆ จึงสลับสับสนกับบ้านเราและทางยุโรปซึ่งอยู่ทางซีกโลกเหนือ นั้นอาจทำให้หลายคนงง ๆ กัน ว่าเดือนไหนเข้าฤดูอะไรกันแล้ว เอาคร่าว ๆ ว่าช่วงเวลาของฤดูต่างๆในออสเตรเลียเป็นดังนี้ 
    
    ฤดูใบไม้ผลิ      กันยา-พฤศจิกา

    ฤดูร้อน            ธันวา-กุมภา   

    ฤดูใบไม้ร่วง      มีนา-พฤษภา

    ฤดูหนาว           มิถุนา-สิงหา

   สำหรับฤดูใบไม้ผลิในซิดนีย์เป็นช่วงที่เมืองกลับมามีชีวิตชีวาหลังจากช่วงอากาศหนาวได้ผ่านพ้น (แม้ซิดนีย์จะไม่มีหิมะตก แต่ฤดูหนาวอุณหภูมิก็อาจลงได้ถึง 7 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางวัน) ใบไม้ผลิเป็นช่วงที่อากาศในซิดนีย์เริ่มอบอุ่นขึ้น มีแสงแดด มีฝนตกบ้าง ดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกผล 
ทำให้ชิดนีย์ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนนั้นดูสดใสมีชีวิตชีวา
 
   ใบไม้ผลิของซิดนีย์อาจไม่อลังการเหมือนใบไม้ผลิในยุโรป ที่เหล่าดอกไม้พากันบานเต็มบ้าน เต็มเมือง เต็มทุ่ง ดาษดื่นไปหมด แต่ใบไม้ผลิของซิดนีย์ก็เต็มไปด้วยสีสันมิใช่น้อย 



    โดยเฉพาะช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนั้น ดอกไม้ที่ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของเมือง ผู้ซึ่งระบายสีแต่งแต้มให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นเป็นสีม่วง นั้นคือ แจ็กกาแรนด้า (Jacaranda) ไม้ต่างถิ่น(ต้นกำเหนิดแถบอเมริกาใต้) ที่ปรับตัวได้ดีจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของสีสันในฤดูใบไม้ผลิในซิดนีย์ไปเสียแล้ว 

    เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าตัดสินใจย้ายที่พำนักไปอยู่ซิดนีย์(ชั่วคราว) สิ่งแรกที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจตอนนั่งรถจากสนามบินเข้าเมืองก็คือความน่าหลงไหลของแจ็กกาแรนด้านี่หละ จนอดไม่ได้ที่ต้องเอ๋ยปากถามคนขับรถว่านี้คือต้นอะไร  



 
ข้าพเจ้าได้เคยเขียนถึง แจ็กกาแรนด้ามาแล้วในตอน ซิดนีย์สีม่วง



      เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้าของซิดนีย์ในตอนนั้น จะเห็นสีม่วงของแจ็กกาแรนด้าตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส 
     แต่เมื่อก้มหน้าลงมา ก็จะพบกับดอกไม้สีม่วงอีกชนิด ที่เพิ่งจะเริ่มผลิบานในช่วงนี้พอดีอะกาแพนทัส (Agapanthus)

   อะกาแพนทัส (Agapanthus) ไม้ดอกสวยประเภทหัว มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น African lily หรือ Blue African lily หรือ Lily of nile ก็เรียก 
ในบ้านเราเคยเห็นปลูกอยู่บ้างตามโครงการหลวง แต่ก็ไม่เคยเห็นดอกดกเท่าที่ออสเตรเลียมาก่อน
     อะกาแพนทัส เท่าที่สำรวจทั่วซิดนีย์พบน่าจะมีอยู่ 3 สีด้วยกัน คือ สีม่วง สีขาว และมีลายผสมขาวกับม่วง 
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสีม่วงดอกดกกว่า เลี่ยงง่ายกว่า หรือเหตุผลกลใดกันแน่ ส่วนใหญ่ที่เห็นจึงมีสีม่วงเป็นหลัก จะมีขาวแซมบ้างประปราย







   ดอกไม้โทนสีฟ้า(ปนม่วง)อีกชนิดที่แบ่งบานช่วงนี้เช่นกันคือ ดอกไฮเดรนเยีย” (Hydrangea) สีดอกไฮเดรนเยียนั้นเปลี่ยนแปลงตามสภาพความเป็นกรดเป็นเบสของดิน ถ้าค่าดินมี pH ต่ำกว่า5.5 (เป็นกรด) จะได้ดอกสีฟ้า จนถึงสีน้ำเงิน แต่ถ้าดิน pH มากกว่า5.5  เราก็จะได้ดอกสีม่วงไปจนถึงชมพู อาจจะเป็นแดงได้ถ้ามีสภาพดินเป็นเบสมาก ๆ (แต่ก็จะได้ต้นที่ไม่ค่อยจะแข็งแรง) 




   จริง ๆแล้วไฮเดรนเยียถือว่าไม่ใช่ไม้แปลกอะไร ที่เมืองไทยก็มีปลูกกัน เพียงแต่ว่า... 
ข้าพเจ้านั้นยังไม่เคยเจอไฮเดรนเยียต้นใหญ่ยักษ์เท่านี้มาก่อนเลย!!! จึงอดตื่นเต้นไม่ได้




    ดอกไม้อีกชนิดที่เมืองไทยก็มี แต่การได้มาเจอกันในออสเตรเลียก็ยังทำให้ข้าพเจ้าตื่นเต้นได้ นั้นก็คือ  พุดซ้อน หรือชื่อในภาอังกฤษว่า “Gardenia” เป็นดอกไม้โปรดของคุณยายชาวออสซี่เจ้าของบ้านที่ข้าพเจ้าไปพักอาศัยอยู่เลยที่เดียว 

  พุดซ้อนธรรมดาๆบ้านเรานี้เอง ที่พอไปอยู่ออสเตรเลียแล้วต้นกลับสูงลิบ กิ่งก้านเปะปะไปตามกำแพงบ้าง ผนังบ้านบ้าง ดอกสีขาวเจ้าก็ดกผิดหูผิดตา จนมองดูคล้ายกุหลาบเลื้อยสีขาวที่เลื้อยตามกำแพงบ้านมากกว่าจะเป็นพุดซ้อนที่เห็นจนชินตา






    ต้นต่อไปที่จะขอแนะนำ คือ พยับหมอก ดอกไม้สีฟ้า(จริง ๆแล้วพยับหมอกมีสีขาวด้วย)ซึ่งบ้านเราก็มี(อีกแล้ว) แต่ขอบอกว่า พยับหมอก ที่นี่ดอกดกมาก(อีกแล้ว) ขึ้นเป็นดง ริมสองข้างทาง ออกดอกสลอน และช่วงให้ดอกยาวนานตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงก็ยังมีให้เห็นอยู่เลย 






   ไอริส” (Iris) คงจะเป็นดอกไม้ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยนักในเมืองไทย แต่ที่ซิดนีย์ในฤดูใบไม้ผลิที่มีฝนตกชุ่มช่ำ และแสงแดดอบอุ่น เราจะได้เห็นดอกไอริสหลากหลายสายพันธุ์บานอยู่ในสวนของซิดนีย์ 

ข้าพเจ้าคิดว่าดอกไอริสจะสวยเป็นพิเศษเมื่ออยู่ท่ามกลางสายฝน 









         มีอยู่ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเดินเล่น สำรวจเมืองไปตามถนน 
แล้วสายตาก็พลันต้องสะดุดกับต้นไม้ต้นสูงใหญ่กว่าหลังคาบ้าน ดอกสีชมพูเต็มต้น 

       ก็นึกสงสัยอยู่ว่ามันคือต้นอะไรกันแน่ จนเดินไปดูใกล้ ๆ ถึงรู้ว่ามันคือต้นชบาที่มีดอกสีชมพูเหมือนบ้านเรานี่หละ แค่ที่นี่ไซส์มันใหญ่ยักส์เป็นพิเศษ 

(อะไรๆที่ออสเตรเลียก็ดูขนาดใหญ่พิเศษไปหมด ^^!)






   รั้วบ้านของชาวออสซี่ในช่วงนี้ก็มีสีสันสดใส เพราะหลายบ้านใช้ไม้เลื้อยมาตกแต่งทำเป็นรั้ว  อย่างในรูปนี้เป็นดอกไม้สีขาวดอกเล็ก ๆ มีกลิ่นหอม คล้ายมะลิ (แต่ก็ไม่ใช่ อาจจะเป็นเคลือญาติกัน) ดอกสีขาวเล็ก ๆบานสะพรั่งแซมด้วยดอกใหญ่สีแดงสดใส เป็นรั้วบ้านที่เก๋ไก๋ไม่เบาเลย

 







นอกจากดอกไม้ที่ได้กล่าวมาแล้ว ซิดนีย์ยังถูกแซมสีสันด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ อาทิ เดซี่ แพนซี่ ไวโอเลต พิทูเนีย และอื่น ๆ ที่ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบชื่อ 

                                        แต่จะสำคัญอะไรกัน เพราะ...

“What's in a name? That which we call a rose by any other name would smell as sweet”

จาก โรมิโอและจูเลียต
William Shakespeare.
 









ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ซิดนีย์ สีม่วง

ถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือ Vs กล้องคอมแพค